วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

วันพิเศษ กับสิ่งพิเศษ

นับเป็นวันดี ที่มาอบรมSocial media ซึ่งเครือข่ายเด็กไทยอ่อนหวานและศูนย์อนามัยเขตที่ 10 ร่วมกันจัดขึ้น ไม่เคยไปอบรมครั้งไหนที่พิเศษเหมือนครั้งนี้มาก่อน.. ที่ว่าพิเศษก็คือ ปล่อยอิสระ ให้ไปถ่ายรูปหรือทำอะไรก็ได้เป็นเวลา 3ชั่วโมงเพื่อนำเรื่องราวมาเขียนblogนี้ พร้อมให้ตังค์ติดตัวไปด้วยอีก 100บาท..จึงเป็นที่มาของวันพิเศษ กับสิ่งพิเศษในวันนี้

สิ่งพิเศษสิ่งแรก คือการได้ไปถ่ายรูปและทำบุญที่วัดชัยมงคล เป็นวัดที่ไม่ไกลนักจากที่อบรมและติดริมน้ำแม่ปิง หลังจากทำบุญและเสี่ยงเซียมซีแล้ว ก็ได้ไปให้อาหารปลาที่ริมน้ำ..ครั้งแรกที่หยิบอาหารปลา1กำมือ โยนลงในน้ำ..หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีปลามารุมกินอาหารเต็มไปหมด..แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเพราะปลาไม่ได้มารุมกินอาหารอย่างที่คิด..แต่กลับเป็นนกพิราบที่อยู่บริเวณนั้นรุมกันบินมาอยู่ล้อมรอบตัวเต็มไปหมดแทน..ลองโยนอาหารปลาให้พวกมันกินดู ปรากฏว่ากินกันอย่างเอร็ดอร่อยและมีอีกหลายตัวบินมาสมทบเพื่อขอกินด้วย..เลยได้เปลี่ยนจากการให้อาหารปลามาเป็นให้อาหารนกพิราบแทน..มองดูที่ป้ายเขียนว่าอาหารสำหรับปลา ถุงละ5บาทแล้ว ถ้าได้เปลี่ยนชื่อจากอาหารสำหรับปลามาเป็นอาหารสำหรับปลาและนกพิราบก็คงน่าจะดูเหมาะกว่า..ไม่รู้มันกินอาหารปลาเข้าไปทุกวันจะว่ายน้ำได้เหมือนปลามั้ย 555
สิ่งพิเศษสิ่งที่สอง คือการได้กินมามาผัดหน้าเรยีนาฯ(มาม่าผัดนิรันดร)..ไม่ได้กินมานานมากแล้ว..แต่รสชาดก็ยังคงอร่อยไม่เปลี่ยน..ย้อนนึกถึงสมัยเรียนที่เรยีนา..การแอบซิสเตอร์ออกมาจากโรงเรียนเพื่อซื้อมาม่ากลับเข้าไปกินในโรงเรียน ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมากถ้าโดนจับได้และถูกจดชื่อ..แต่ก็ถือเป็นเรื่องท้าทายและน่าภูมิใจเช่นกัน หากเราทำปฏิบัติการครั้งนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี
สิ่งพิเศษสิ่งที่สาม การได้กลับไปเยี่ยมโรงเรียนเก่า..นับว่าเรยีนาเปลี่ยนไปเยอะ ในช่วงเวลา 10กว่าปีที่ออกมา มีตึกใหม่สร้างขึ้นมากมาย แต่ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์และสะอาดสะอ้านเหมือนเดิม ได้เข้าไปแล้วก็นึกถึงบรรยากาศและเรื่องราวสนุกๆสมัยเรียน ที่คิดถึงที่ไรก็อดอมยิ้มไม่ได้ซักที
และนี่ก็เป็นวันพิเศษ กับสิ่งพิเศษ 3 สิ่ง ด้วยเงินเริ่มต้น 100 บาท (ทำบุญ 10บ. อาหารปลา5บ. มาม่า+ชามะนาว 40 บ. น้ำมะพร้าว15บ.) คงเหลือเงิน 30 บาท




วันพิเศษเกิดขึ้นได้แทบทุกวัน ขึ้นอยู่กับมุมมองของเราจะคิดว่าสิ่งที่เราพบเจอในวันนั้นเป็นสิ่งดีดีที่เข้ามาในชีวิตหรือไม่ ลองมองหาสิ่งดีดีรอบตัวคุณสิคะ... ความสุขอยู่ข้างๆเราแค่นี้เอง


วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

10 หนทางสร้างสุข


1. ตระหนักว่าความสุขที่ยั่งยืนไม่ได้มาจากความสำเร็จทางการเงิน ทรัพย์สินก็เหมือนกับสุขภาพ ถ้าไม่มีเลยเราย่อมทุกข์ทรมาน แต่ถ้ามีมากเกินไปไม่ได้ยืนยันว่าเราจะสุขมากขึ้น
2. ควบคุมการใช้เวลาให้ดี การมีระเบียบวินัยโดยการจัดสรรเวลาทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นได้
3. แสดงท่าว่ามีความสุข บางครั้งเราต้องแสร้งว่ามีความสุข เพื่อปรับกรอบคิด ของเราให้เป็นไปในทางบวก หากเราพยายามยิ้มอยู่เสมอ จะทำให้ผู้คนรอบข้างเรา รู้สึกดีขึ้น และตัวเราก็จะรู้สึกดีตาม
4. หางานและกิจกรรมที่สอดคล้องกับความถนัด คนมีความสุขมักเป็นคนสนุก กับงานที่ท้าทาย แต่ไม่ถึงขั้นทำให้เครียด
5. ออกกำลังกาย มีงานวิจัยจำนวนมากยืนยันว่า การออกกำลังกายแบบต่อเนื่อง วันละ 25-30 นาที ไม่เพียงแต่ช่วยให้สุขภาพดีและกระปรี้กระเปร่าเท่านั้น แต่ยังเป็นยาช่วยลดความวิตกกังวลหรือซึมเศร้าอย่างอ่อนๆด้วย
6. พักผ่อนและนอนให้เพียงพอ ควรรู้จักแบ่งเวลาพักผ่อน อยู่คนเดียว และ นอนหลับให้เพียงพอ ทำให้กระปรี้กระเปร่า ไม่อ่อนเพลีย
7. ให้ความสัมพันธ์เป็นตัวเยียวยา การใกล้ชิดสนิทสนมกับคนที่เราผูกพันเอาใจใส่ จะช่วยเป็นแรงเสริมให้ยืนหยัดผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากได้
8. สนใจสิ่งที่อยู่เหนือกว่าตัวคุณ ยื่นมือออกไปช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลือ คนมีความสุขมักชอบช่วยคน และการทำดีต่อคนอื่นช่วยให้คุณมีความสุขเพิ่มขึ้น
9. รู้สึกขอบคุณต่อสิ่งดีๆ ในชีวิต ลองหยุดคิดสักนิดว่าวันนี้มีสิ่งดีๆ อะไรในชีวิตบ้าง จะทำให้มีกำลังใจเพิ่มขึ้น อย่ามัวคิดถึงชีวิตในแง่ลบเพียงเพราะตั้งความหวังมากเกินไป
10. ฟูมฟักตัวตนด้านจิตวิญญาณ ศรัทธาในสิ่งที่ดีย่อมทำให้เกิดความหวังและกำลังใจทำสิ่งที่ดี คนที่มีศรัทธาในศาสนาหรืออุดมการณ์เพื่อสังคม มีเหตุผลในการทำเพื่ออะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง จึงเป็นคนที่มีความสุขมากกว่า และเผชิญกับวิกฤติได้ดีกว่าคนที่ขาดศรัทธายึดเหนี่ยว
ข้อมูลจาก Health&Cuisine ฉบับที่ 95 เดือนธันวาคม 2551